SFP Module คืออะไร
SFP ย่อมาจากคำว่า Small Form-Factor Pluggable ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า GBIC สามารถเรียกได้อีกชื่อว่า Mini-GBIC คือ Network interface module ที่สามารถถอดเข้าออกได้ตลอดเวลา หรือ เรียกว่า hot-pluggable โดยเจ้า SFP module นั้นจะใช้คู่กันกับสายเส้นใยแก้วนำแสง หรือ ไฟเบอร์ออพติค (Fiber Optic) รวมถึงสายทองแดง หรือ คอปเปอร์ (Copper) อย่างพวกสายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair)
เรียกกันติดปากว่า SFP คืออุปกรณ์ network ที่ใช้เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณผ่านสายไฟเบอร์หรือในบางครั้งก็สายทองแดง โดยปกติจะใช้ต่อเข้ากับ switch หรืออุปกรณ์อื่นๆ โดย SFP มีความเร็วอยู่ที่ 1Gbit/s SFP+ อยู่ที่ 10Gbit/s SFP28 อยู่ที่ 25Gbit/s และ QSFP มีตั้งแต่ 4 ถึง 200Gbit/s โดยบางครั้ง SFP ถูกเรียกว่า Mini-GBIC
ชนิดของ SFP Module
SFP Module นั้นสามารถนำไปใช้งานร่วมกับ Switches, Router, Firewall, Server, SAN Storage, Media converter เป็นต้น โดยทั่วไปนั้นจะแยกประเภทของ ช่องการเชื่อมต่อ module เอาไว้อยู่ 2 ชนิดคือ
- Copper ซึ่งจะเป็นช่องการเชื่อมต่อแบบ RJ45 ใช้สาย Twisted Pair (สายบิดคู่ตีเกลียว) รองรับมาตรฐาน CAT3 ขึ้นไป
- Fiber ซึ่งจะเป็นช่องการเชื่อมต่อแบบ LC จะแบ่งออกเป็นรูปแบบคือ
2.1 Duplex จะใช้สายไฟเบอร์ออพติก 2 คอร์ โดย SFP แบบนี้จะใช้ช่องการเชื่อมต่อแบบ LC จะมีมาตรฐานประเภทของ SFP หลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการ Bandwidth และ Speed ที่มากขึ้น เช่น SFP+, SFP28, SFP56, SFP-DD , QSFP, QSFP+, QSFP28, QSFP56, QSFP-DD
2.2 Bi-directional หรือเรียกได้อีกหลายชื่อว่า SFP Bidi, SFP WDM, WDM Bi-directional เป็นต้น SFP Bidi เป็น SFP ที่ใช้ ไฟเบอร์ออพติก 1 คอร์ โดยการนำคลื่นคนละความยาวมาผสานรวมกันและส่งไปกลับในไฟเบอร์ 1 คอร์ การเลือกซึ้อ SFP Bidi จำเป็นต้องเลือกใช้คู่หัวท้ายให้ถูกต้องกับความยาวของคลื่น ต้องเลือกซื้อรุ่นที่มีคลื่นในการ รับ-ส่งเป็นแบบ Tx 1310nm/Rx 1550nm ให้ถูกคู่การใช้งาน เพราะSFP Bidi จำเป็นต้องมี Wavelength ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละคู่ เพื่อให้ สามารถรับส่ง-ส่งสัญญาณกันได้ โดยปกติการเลือกซื้อ SFP นั้น ผู้ใช้หลายคนจะชินกับการใช้รุ่นเดียวกัน แต่ SFP Bidi ไม่สามารถใช้รุ่นเดียวกันนำไปใช้งานได้ เพราะคลื่นในการรับ-ส่งจะชนกัน
ส่วนใหญ่ช่องเสียบ SFP จะใช้สำหรับการรับส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ตัวนึงไปอีกตัวนึง (Uplink/Downlink) ถ้าหากการใช้ลิงค์ข้อมูลอุปกรณ์เป็นแบบระบบไฟเบอร์ออพติก จะมีความเสถียรสูง Latency ที่ต่ำ รวมถึงรองรับการเดินสายสัญญาณได้ไกลกว่าสาย Copper เป็นหลายเท่าตัว
SFP Module แบบไฟเบอร์นั้นจะรองรับประเภทของไฟเบอร์ออพติกอยู่ 2 ประเภท และมีการกำกับตัวย่อเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นดังนี้
- SM, SMF แทน Single Mode Fiber Optic
- MM, MMF แทน Multi Mode Fiber Optic
SFP นั้นมีข้อกำหนดสเปคของตัวส่งและตัวรับที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกตัวรับส่งสัญญาณที่เหมาะสมตามความต้องการ เพื่อให้สอดกับการใช้งานของกับประเภทสายสัญญาณใช้อยู่ เช่น สายคู่บิดเกลียวหรือสายทองแดงแกนคู่, สายไฟเบอร์แบบ Single mode, Multi Model
โมดูลรับส่งสัญญาณ SFP มีหลายประเภทตามมาตรฐานการจัดประเภทที่แตกต่างกัน เนื่องจากประเภทของสายเคเบิลนั้นแตกต่างกัน, เราสามารถแบ่งโมดูล SFP ออกเป็นโหมดเดียวและหลายโหมด.
อัตราการรับส่งข้อมูลของโมดูล SFP มีให้ตั้งแต่ 100Mbps ถึง 4Gbps ขึ้นไป, และระยะการทำงานได้ตั้งแต่ 500 เมตร ถึง 100 กิโลเมตร
นอกจากนี้, โมดูล CWDM SFP และโมดูล DWDM SFP ยังพร้อมใช้งานสำหรับลิงก์ WDM โมดูล Copper SFP ช่วยให้สามารถสื่อสารผ่านสายเคเบิลเครือข่ายคู่บิดเกลียวได้
โมดูล SFP ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ, เช่น DDM (การตรวจสอบการวินิจฉัยทางดิจิตอล), คำพิพากษา (การตรวจสอบด้วยแสงดิจิตอล), และอาร์จีดี (ขรุขระ) ตัวรับส่งสัญญาณเกรด.
DDM และ DOM ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบพารามิเตอร์ตามเวลาจริงของโมดูล SFP, เช่น ไฟเข้า, กำลังขับและอุณหภูมิในขณะที่ RGD นั้นเหมาะสำหรับการใช้งานเครือข่ายอุตสาหกรรม, เช่น ระบบอัตโนมัติในการผลิต, สถานีย่อยและระบบขนส่งอัจฉริยะ
ตารางการจำแนกประเภท
ประเภท SFP | ประเภทเครื่องรับส่งสัญญาณ | ตัวเชื่อมต่อ | ระยะทาง | อัตราข้อมูล |
โมดูลไฟเบอร์ SFP | SX, MX, LX,
อดีต, ZX, EZX, BX |
LC ดูเพล็กซ์ | 100m-160km เหนือ MMF หรือ SMF | 100Mbps/ 1000Mbps |
CWDM/DWDM SFP | LC ดูเพล็กซ์ | 10กม.-120 กม. เหนือ SMF | ||
โมดูลทองแดง SFP | 1000เบส-T | RJ45 | 100 เมตรเหนือสายทองแดงบิดคู่ | 1000Mbps |
10/100เบส-T | RJ45 | 100เมตรเหนือสายทองแดงบิดคู่ | 100Mbps | |
10/100/1000เบส-T | RJ45 | 100เมตรเหนือสายทองแดงบิดคู่ | 1000Mbps |
โดยปกติ, พอร์ต SFP ใช้ในสวิตช์อีเทอร์เน็ต, เราเตอร์, ไฟร์วอลล์และการ์ด NIC.
โมดูล SFP เชื่อมต่ออุปกรณ์กับสายไฟเบอร์หรือสายทองแดง เช่น Cat5e. ตัวรับส่งสัญญาณแสง SFP ประเภทอื่นๆ เช่น SFP วิดีโอ 3G และ SFP วิดีโอ 12G นอกจากนี้ยังใช้ในกล้อง HD หรือระบบตรวจสอบ
วิธีการเลือกใช้
เมื่อเลือกโมดูล SFP ความเข้ากันได้มักเป็นปัจจัยหลักที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญที่สุด ในการเลือกซื้อ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแน่ใจว่าโมดูล SFP เข้ากันได้กับอุปกรณ์ของเรา ผู้ใช้ควรคำนึงถึงอัตราการส่งข้อมูลด้วย, ระยะทาง, และค่าใช้จ่ายเมื่อเลือกโมดูล SFP
ในการเลือกซื้อโมดูล SFP จะเห็นว่า โมดูล Cisco SFP มีราคาสูง และอาจจะเกินความจำเป็นบางอย่างต่อผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม ด้วยการพัฒนาของตลาดเครื่องรับส่งสัญญาณแสง สิ่งต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลง ผู้จำหน่ายตัวรับส่งสัญญาณออปติคัลมีจำนวนที่มากขึ้นในตลาดจำนวนมากเริ่มเสนอโมดูล SFP ที่ถูกกว่าซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Cisco SFP ดังนั้น สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกโมดูล มีดังนี้
- ความเข้ากันได้ของโมดูล SFP
ในการเลือกซื้อตัวรับส่งสัญญาณแสง SFP ความเข้ากันได้มักเป็นปัจจัยหลักที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญที่สุด ในการเลือกซื้อก่อนทำการสั่งซื้อ สามารถตรวจสอบศูนย์ทดสอบออปติกของผู้จำหน่ายเพื่อยืนยันว่าโมดูล SFP เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ หรือเพียงแค่สอบถามตัวแทนขายสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของตัวรับส่งสัญญาณ SFP
- โมดูล SFP ใหม่และ SFP มือสอง
ในตลาดการซื้อขายโมดูล SFP มีตัวรับส่งสัญญาณ SFP ทั้งใหม่และมือสองในตลาด การเข้าใจเบื้องต้นเพื่อแยกระหว่าง SFP ใหม่และมือสอง จะช่วยให้ลดความเสียหายจากการซื้อ SFP ซึ่งโมดูล SFP ที่ใช้แล้ว อาจมีรอยขีดข่วนในลักษณะที่ปรากฏและพอร์ตออปติคอล. รวมทั้ง การทดสอบพลังงานแสง และการเปรียบเทียบผลการทดสอบกับข้อกำหนดก็เป็นอีกวิธีที่ได้ผลในการแยก SFP ใหม่ และ SFP เก่าออกจากกัน ถ้าผลลัพธ์ที่ทดสอบมีความแตกต่างกันมาก อาจจะเป็นโมดูล SFP มือสอง - ราคาโมดูล SFP
เมื่อเปรียบเทียบราคาของ Cisco SFP หรือโมดูล SFP ยี่ห้ออื่น ตัวรับส่งสัญญาณออปติคอล SFP ของยี่ห้ออื่น ๆ นั้นคุ้มค่ากว่า โดยปกติไม่มีความแตกต่างระหว่างประสิทธิภาพของโมดูล 1G SFP และ OEM SFP ที่เข้ากันได้ นอกเหนื่อจากราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่โมดูล SFP ที่เข้ากันได้เป็นที่นิยมในตลาด ผู้ใช้สามารถเลือกตัวรับส่งสัญญาณออปติคัล SFP ที่เหมาะสมจากผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ตามความต้องการในราคาถูก - ความเสถียรของอุณหภูมิ
เราใช้โมดูลรับส่งสัญญาณ SFP เป็นหลักในศูนย์ข้อมูลหรือบนสวิตช์ที่อุณหภูมิอาจแตกต่างกันในช่วงกว้าง อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจส่งผลต่อกำลังแสงและความไวแสง ดังนั้นความเสถียรของอุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โมดูล SFP ทำงานได้ตามปกติ. - คุณภาพของโมดูล SFP และบริการหลังการขาย
ไม่มีใครสามารถมั่นใจได้ว่าโมดูล SFP ที่ซื้อไปนั้นมีความปกติ 100% และโดยปกติอายุการใช้งานของตัวรับส่งสัญญาณแสงของผู้ผลิตในตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันอยู่ที่ระยะเวลา 5 ปี เป็นการยากที่จะบอกว่าคุณภาพจะดีหรือไม่ดีในปีแรก ดังนั้น การเลือกผู้ผลิตและจัดจำหน่าย SFP ที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับบริษัท/โรงงาน/องค์กรธุรกิจ/หรือครัวเรือน ที่กำลังพิจารณาสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท โฟคอมม์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร : 02-973-1966
Admin : 063-239-3569
Email : info@focomm-cabling.com