IR Camera หรือ กล้องวงจรปิด Infrared คือ กล้องวงจรปิดที่จะใช้แสงจากหลอดอินฟราเรด ส่องไปกระทบที่ตัววัตถุ เพื่อที่จะใช้ในการจับภาพที่วัตถุนั้น
เชื่อว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกับกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี และเคยเห็นคลิปจากล้องวงจรปิดในเวลากลางคืนตามข่าวต่างๆ ทางช่องโทรทัศน์ บางภาพก็คมชัด แสงพอดี บางภาพก็สว่างจนขาวโพลน หรือไม่ก็มืดเกินไป โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดภาพเหล่านี้ขึ้นอยู่กับหลอดอินฟราเรดในตัวกล้อง พีเอส และโซลูชั่นต่างๆ ที่มีในตัวกล้องวงจรปิด ซึ่งเราเรียกกล้องวงจรปิดชนิดนี้ว่า “กล้องวงจรปิด Infrared (IR Camera)” และนอกจากที่ได้เห็นตามข่าวทางช่องโทรทัศน์แล้ว ยังสามารถเห็นกล้องวงจรปิดรูปแบบนี้ ทั้งภายในที่อยู่อาศัย หรือภายในสำนกงานต่างๆ ทั่วไป ที่ติดตั้งไว้สำหรับรักษาความปลอดภัยในยามค่ำคืน
ในวันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด Infrared หรือ IR Camera มานำเสนอ เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่า IR Camera คืออะไร มีการทำงานและความสามารถแบบไหน เพื่อเป็นข้อมูลให้ทุกคนในการพิจารณาก่อนติดตั้งกล้องวงจรปิด และเพื่อให้ได้รู้ว่าทำไมถึงเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความปลอดภัยในยามค่ำคืน
IR คืออะไร
IR หรือ อินฟราเรด (Infrared) เป็นรังสีความร้อนอยู่ในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่างคลื่นวิทยุ และแสงที่มีความถี่ในช่วง 1,011-1,014 เฮิร์ตซ์ ความถี่ในช่วงเดียวกับไมโครเวฟ มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่างแสงสีแดงกับคลื่นวิทยุสื่อสารทุกชนิด ที่มีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง -200 ถึง 4,000 องศา
คุณสมบัติเฉพาะตัวของรังสีอินฟราเรด คือ ไม่เบี่ยงเบนในสนามแม่เหล็กที่แตกต่างกัน และยิ่งมีความถี่สูงมากขึ้น พลังงานก็ยิ่งสูงขึ้นด้วย
IR Camera คือ
IR Camera หรือ กล้องวงจรปิดอินฟราเรด คือ กล้องวงจรปิดชนิดหนึ่งที่ติดตั้งอุปกรณ์อินฟราเรด ซึ่งการทำงานโดยทั่วไปของตัวกล้องวงจรปิด IR Camera โดยปกติแล้วกล้องจะมี Sensor ตรวจสอบสภาพแสงตลอดเวลา ในสภาพแสงขณะที่น้อยกว่าที่กล้องวงจรปิดกำหนดไว้ หรือในที่มืด จะมี Noise แทรกค่อนข้างมาก เนื่องจากว่ากล้องวงจรปิดจะพยายามจะเก็บรายละเอียดให้มากขึ้นแต่ยังคงต้องรักษา Shutter speed เอาไว้ จึงจำเป็นจะต้องเพิ่มความไวแสงของ CCD/ CMOS ขึ้น หรือที่เรียกว่า ISO
กล้องวงจรปิดชนิดนี้ จะใช้แสงจากหลอดอินฟราเรด ส่องไปกระทบที่ตัววัตถุ เพื่อที่จะใช้ในการจับภาพที่วัตถุนั้น ซึ่งตัวอินฟราเรดจะทำงาน เมื่ออยู่ในสภาวะแสงในบริเวณนั้นน้อยลงไปอยู่ที่ระดับหนึ่ง โดยที่จะมีเซนเซอร์ LDR ที่ติดตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของตัวกล้องคอยทำหน้าที่วัดระดับแสง และคอยส่งสัญญาณไปที่หลอดอินฟราเรดให้ทำงาน และทันทีที่หลอดอินฟราเรดทำงานภาพก็จะกลายเป็นขาวดำ
การสังเกตว่าหลอด LED ทำงานหรือไม่ คือ เมื่ออยู่ในที่มืด หลอด LED จะเปล่งแสงเป็นสีแดง ซึ่งก็จะมีข้อพิเศษอยู่ตรงที่ สามารถจับภาพในที่มืดได้ แต่มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่จับภาพได้ไกลสุดตามระยะทางที่กำหนดไว้เท่านั้น และเมื่อแสงสว่างเพียงพอกล้องก็จะกลับเข้าสู่โหมดภาพสีปกติอีกครั้ง
ต่อมาก็มีการพัฒนา Smart IR ช่วยลดแสงสะท้อนในการมองเห็นภาพในเวลากลางคืน โดยปกติเมื่อ IR ทำงาน หากวัตถุเข้ามาใกล้กล้องจะทำให้ภาพที่แสงตกใกล้วัตถุเป็นสีขาวมองไม่ชัด บางครั้งจะเห็นภาพได้ต่อเมื่อมีวัตถุมาอยู่ ณ จุดตกกระทบของแสงอินฟราเรดจึงจะเห็นภาพ นอกจากนี้จำนวนหลอดไฟยังมีผลต่อระยะที่สามารถจับภาพได้อีกด้วยหากใช้หลอดไฟ 15 หลอด จะสามารถส่องได้ประมาณ 10 เมตร เป็นต้น
ลักษณะเด่นของกล้องวงจรปิดอินฟราเรด
IR Camera เป็นกล้องวงจรปิดที่มีหลอด LED ในตัว ทำหน้าที่เปล่งแสงนำทางเพื่อเพิ่มแสงให้กับกล้องวงจรปิดในระยะทางมองของกล้องวงจรปิด โดยแสงอินฟราเรดจะพุ่งไปในระยะที่ถูกกำหนดจากนั้นแสงจะตกกระทบวัตถุแล้วเกิดการสะท้อนกลับมายังหน้ากล้องวงจรปิด เนื่องจากหลอด LED เป็นสีแดงภาพที่ได้จึงเป็นสีขาวดำ แต่ในสภาวะที่แสงเพียงพอกล้องวงจรปิดจะมีภาพออกเป็นสีธรรมชาติปกติ จึงเป็นเหตุให้กล้องวงจรปิดชนิดนี้สามารถมองได้ทั้งกลางวัน และกลางคืนในสถานที่มืดสนิทได้
กล้องวงจรปิดอินฟราเรด มีกี่แบบ
กล้องวงจรปิดที่มาพร้อมระบบอินฟราเรดมีราคาที่แตกต่างกันไป อันเนื่องมาจากการพัฒนาคุณสมบัติด้านระบบของอุปกรณ์ ในปัจจุบันมี IR Camera ให้เลือก 2 ระบบ ได้แก่
- กล้องวงจรปิดอินฟราเรด แบบ LED (ระบบเดิม)
เป็นกล้องที่มีหลอด LED ดวงเล็กๆ หลายๆ หลอดอยู่รอบเลนส์ ปล่อยรังสีอินฟราเรดได้กว้างประมาณ 40-50 องศา ให้ความสว่างได้สูงสุด 1-15 mW แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้งานกล้องอินฟราเรดระบบนี้ คือ
- กล้องร้อน จึงทำให้ตัวกล้องเสียเร็วขึ้น (ภาษาวิทยาศาสตร์เรียกว่า Catalyze)
- ภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด Infrared ระบบนี้ ส่วนที่เป็นสีดำจะไม่ดำสนิท ภาพที่ได้จึงฟุ้ง Contrast ไม่ดี ภาพไม่สวยคมชัด
- กล้องอินฟราเรดแบบ LED จะส่งคลื่นออกมาเป็นค่าที่ตายตัว เวลาวัตถุหรือหน้าคนเข้ามาใกล้ๆ กล้อง ภาพที่ได้จะขาวจนฟุ้ง และมองไม่เห็นรายละเอียดของภาพ
- กล้องวงจรปิดอินฟราเรด แบบ Smart IR หรือ Array
เป็นกล้องอินฟราเรดระบบใหม่ถูกพัฒนาขึ้นมาในปัจจุบัน ปล่อยรังสีอินฟราเรดได้กว้างประมาณ 180 องศา อินฟราเรดให้ความสว่างสูงถึง 1-30 W ตัวกล้องมีความร้อนน้อยลง ยืดอายุการใช้งานกล้องได้นานขึ้น ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าระบบ LED และยังมีข้อดีที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ดังนี้
- Contrast ดีขึ้น ทำให้ภาพคมชัด
- สามารถปรับเพิ่มลดแสงได้ ทำให้ภาพที่ได้ไม่ Over หรือ Under จึงดูฟุ้งกระจายหรือมืดจนเกินไป
- ภาพที่ได้ไม่สว่างเป็นวงเมื่อใช้งานในเวลากลางคืน
- เนื่องจากใช้หลอดเดี่ยว ทำให้สามารถออกแบบให้กล้องมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมได้
- ลำแสงไปได้ไกลกว่าเดิม บางรุ่นมี IR Array แค่สองหลอด สามารถส่องไปได้ไกลถึง 40 เมตร รุ่น Speed Dome มี Array ส่องได้ไกลถึง 70 เมตร
ข้อดี-ข้อเสีย ของกล้องวงจรปิดอินฟราเรด
ข้อดี
- สามารถมองเห็นภาพได้จากในที่ที่มืดสนิท เพราะได้แสงช่วยจากหลอดอินฟราเรดส่องไปที่วัตถุ
- สามารถติดตั้งได้ทุกพื้นที่ ไม่ว่าภายในอาคารหรือภายนอกอาคาร
ข้อเสีย
- มีความร้อนสูงเมื่ออินฟราเรดทำงาน
- มีข้อจำกัดเรื่องระยะส่องของอินฟราเรด (IR Distance) ถ้าวัตถุอยู่ไกลเกินระยะแสงอินฟราเรดก็จะไม่สามารถมองเห็นได้
ข้อแตกต่างของกล้องวงจรปิดที่ใช้มองภาพกลางคืน
กล้องวงจรปิดที่ใช้ดูภาพในช่วงเวลากลางคืน แบ่งได้ 4 ประเภทหลักๆ ซึ่งกล้องวงจรปิดอินฟราเรด (IR Camera) ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกล้องวงจรปิดที่ใช้ดูภาพในช่วงเวลากลางคืน นอกจากนั้นแล้วยังมีกล้องอีก 3 แบบ คือ กล้องวงจรปิดกลางวันกลางคืน (Day & Night), กล้องวงจรปิดแบบสีทั้งกลางวันกลางคืน (Star Light) และกล้องวงจรปิด ColorVu โดยกล้องแต่ละชนิดก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป แล้วแต่การใช้งานที่หน้างานรวมถึงแสงที่มีอยู่ในสถานที่นั้น ๆ เป็นหลัก
จากบทความข้างต้น เราจะได้ทราบกันแล้วว่า กล้องวงจรปิดอินฟราเรดนั้นเป็นอย่างไร ดังนั้นเรามาดูกันว่ากล้องอีก 3 แบบนั้นมีข้อแตกต่างจากกล้องวงจรปิดอินฟราเรดยังไง
- กล้องวงจรปิดกลางวันกลางคืน (Day & Night)
สำหรับกล้องชนิด Day & Night นั้นมีความสามารถหลัก ๆ คือในเวลากลางวันจะมีภาพเป็นสีปกติพอถึงช่วงเวลากลางคืนจะเปลี่ยนตัวเองเป็นขาวดำ ซึ่งกล้องชนิดนี้จะใช้แสงน้อยมากๆ อย่างแสงจากพระจันทร์ก็เพียงพอแล้ว
ข้อดี คือ ใช้ไฟเลี้ยงตัวกล้องน้อยลงกว่าปกติและตัวกล้องจะมีความคงทนที่สูงมาก เพราะไม่ต้องมีหลอดอินฟาเรดที่มาทำให้มีความร้อนสะสมอยู่ตลอดเวลา
ข้อเสีย คือ ไม่สามารถในช่วงเวลาที่มืดสนิดได้
- กล้องวงจรปิดแบบสีทั้งกลางวันกลางคืน (Star Light)
กล้องชนิดนี้นั้นจะนำข้อดีที่มีอยู่ของกล้องทุกรุ่นมาใช้ทำให้ได้ภาพนั้นเป็นสีทั้งกลางวันกลางคืน ในเวลากลางคืนในที่นี้ควรจะมีแสงบ้างเล็กน้อย ไม่ถึงกับมืดสนิท เพราะมีค่ารูรับแสงที่ต่ำมากๆ อยู่ที่ 0.001 LUX ภาพที่กล้องสามารถถ่ายภาพได้ก็จะยังคงเป็นภาพสีใกล้เคียงกับสายตาของเราปกติ เวลาที่เรามองออกนอกหน้าต่างในตอนกลางคืน เรื่องในส่วนของระยะการมองเห็นนั้นไม่จำกัดว่าไกลแค่ไหนขึ้นอยู่กับเลนส์ของตัวกล้องวงจรปิดเป็นหลัก Star Light จึงเหมาะกับการติดตั้งภายนอกในสภาวะแสงของตัวเมืองหรือหมู่บ้านทั่วไปจะสามารถแสดงภาพสีได้ตลอดเวลา
ข้อดี คือ ราคาไม่สูงอาจแพงกว่ากล้อง infrared แค่เล็กน้อยเท่านั้น ถ่ายภาพสีได้ในเวลากลางคืน หรือในที่มีแสงน้อยมาก ๆ ภาพที่ได้ยังคงเป็นภาพสี ความร้อนจากอุปกรณ์น้อยมาก เพราะไม่มีอินฟาเรด จึงทำให้อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ากล้องอินฟาเรด และไม่ถูกจำกัดด้วยระยะอินฟาเรด ถ่ายภาพในเวลาตอนกลางคืนในที่ๆมีแสงน้อย ยังคงมองเห็นภาพสีได้ชัดเจน
ข้อเสีย คือ ไม่สามารถถ่ายภาพในที่มืดสนิท หรือในโกดังที่ปิดทึบได้ เพราะไม่มีอินฟาเรด เหมาะกับการติดตั้งภายนอกบ้านที่มีแสงบ้างเช่นหน้าบ้านที่มีไฟถนนหรือหมู่บ้าน
- กล้องวงจรปิด ColorVu
กล้องวงจรปิด Colorvu คือกล้อง Star Light ที่ได้มีการพัฒนาต่อไปอีกขั้น เพื่อให้กล้องสามารถแสดงภาพสีได้ทั้งกลางวันกลางคืนเป็นภาพสีตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมืดสนิทแค่ไหนโดยการใส่เทคโนโลยี LED white Light เข้าไปทดแทนการใช้ Infrared เป็นแสงชดเชยทำให้กล้อง ColorVu สามารถแสดงภาพสีได้ไม่ต้องกังวลเรืองสภาวะแสงภายนอกเมื่อได้ภาพสี 24 ชั่วโมง
ข้อดี คือ ถ่ายภาพสีได้ในเวลากลางคืน และในที่มีแสงน้อยมากๆ ภาพที่ได้ยังคงเป็นภาพสี 24 ชม. เพราะมี LED White Light และสามารถติดตั้งในพื้นที่มืดสนิทได้ ติดตั้งได้ทุกพื้นที่ที่แสงไม่รบกวน
ข้อเสีย คือ ไม่สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่แสงรบกวนเช่นห้องนอน หรือห้องดูทีวี เป็นต้น
โดยสรุปแล้วการใช้งานของตัวกล้องที่ต้องการมองภาพในช่วงเวลากลางคืนนั้นเราต้องคำนึงสถานที่ในการติดตั้งเป็นหลักจึงค่อยเลือกตัวกล้องว่าจะใช้แบบไหนดี เพราะกล้องวงจรปิดทุกตัวมีข้อดีและข้อเสียต่างกันเพียงแค่เราเลือกให้เหมาะสมกับสถานที่ก็สามารถทำให้เราใช้คุณสมบัติของตัวกล้องได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นเอง
หลังจากอ่านบทความนี้แล้วหากคุณอยากติดตั้งกล้อง IR Camera และกำลังมองหาอุปกรณ์สำหรับติดตั้งกล้องวงจรปิดคุณภาพสูง มีความปลอดภัย หรือมีข้อส่งสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ในการติดตั้ง คุณสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม และรับคำปรึกษาฟรี ได้ที่
บริษัท โฟคอมม์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร : 02-973-1966
Admin : 063-239-3569
E-mail : info@focomm-cabling.com